สิวอักเสบรักษาง่ายกว่าที่คุณคิด
สิวอักเสบมีลักษณะที่เราสามารถมองเห็นจากภายนอกเป็นเม็ดตุ่มนูนๆ บวมแดง ซึ่งเกิดจากการอักเสบบริเวณรูขุมขนและต่อมไขมันใต้ผิวหนัง โดยสิวอักเสบอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ กรรมพันธุ์ รูขุมขนอุดตันหรือจากสิ่งสกปรก รวมไปถึงภาวะฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง หากปล่อยให้สิวอักเสบเกิดขึ้นนานๆ อาจทำลายผิวหนังและทำให้เกิดรอยแผลได้ ฉะนั้นแล้วการรักษาสิวจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับทุกคน ในวันนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับ ‘สิวอักเสบ’ ที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คุณคิด
สาเหตุของการเกิดสิวอักเสบ

ความผิดปกติของการผลัดเซลล์ผิวเกิดการอุดตันในรูขุมขน (Hair follicles)
สิวอักเสบเกิดจากการที่ร่างกายมีกระบวนการผลัดเซลล์ผิวชั้นหนังกำพร้า(ชั้นบนสุด)ทุก ๆ 30 วัน เพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพจากมลภาวะต่าง ๆ แต่กระบวนการผลัดเซลล์ผิวของร่างกายในบางครั้งอาจทำได้ช้าเมื่อมีปัจจัยที่เพิ่มขึ้น อย่างสภาพอายุของผิวที่มากขึ้นจะทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วมาสะสมบนผิว ทำให้ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส รูขุมขนถูกอุดตันทำให้ไขมันที่ผิวไม่ถูกระบายออกมา เกิดเป็นสิวอักเสบในที่สุด
การสร้างไขมันเพิ่มขึ้นจากต่อมไขมัน (Sebacious gland)
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนวัยรุ่นเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ สิวอักเสบเกิดจากฮอร์โมนแอนโดรเจน ที่จะเป็นตัวกระตุ้นต่อมไขมันให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ต่อมไขมันจะสามารถผลิต sebum ที่มีหน้าที่ในการเคลือบผิวหนังให้ชุ่มชื้นได้มากขึ้น และเมื่อsebum มีจำนวนมากขึ้นในขณะที่กำลังเดินทางจากต่อมไขมันสู่ปากรูขุมขน ก็จะมีโอกาสที่ไปผสมกับแบคทีเรียและเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งอยู่ในรูขุมขุน ก่อให้เกิดสิวอักเสบ เกิดตุ่มแดงและบวมเจ็บได้
การเจริญของแบคทีเรียก่อสิว Cutibacterium acnes (C. acnes )
ปัญหาสิวอักเสบไม่มีหัวเกิดจากการที่ C.acnes แบคทีเรียชนิดนี้อาศัยอยู่ลึกลงไปในรูขุมขนแม้ว่าจะมีสุขภาพผิวที่ดีก็ตาม แบคทีเรียชนิดนี้จะใช้ sebum เป็นแหล่งพลังงานและสารอาหารหลัก เมื่อมีการสร้างไขมันเพิ่มขึ้นจึงทำให้ sebum มีจำนวนเพิ่มขึ้น อาจทำให้ C.acnes แบคทีเรียเจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนมากแบคทีเรียตัวนี้จะปล่อยเอนไซม์เพื่อย่อยไขมันใต้ผิวหนังไม่เพียงแค่นั้นยังปล่อยเอนไซน์บางอย่างที่จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบได้ กลายเป็นสิวอุดตัน นำไปสู่ต้นเหตุของการเป็นสิวอักเสบไม่มีหัวได้
สิวอักเสบมีกี่ประเภท

สิวตุ่ม (Papules)
สิวตุ่มจะมีลักษณะเป็นสิวอักเสบแดงเป็นก้อนขนาดเล็กๆนูนๆ เป็นสิวอักเสบแรกๆ ที่พัฒนามาจากการเกิดสิวอุดตัน
สิวหัวหนอง (Pustules)
สิวอักเสบหัวหนองนั้นจะเป็นสิวที่เกิดขึ้นบ่อยมากๆ โดยจะมีลักษณะตุ่มๆ แดง และมีหัวสีเหลือง ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่รุนแรงกว่าแบบสิวตุ่ม
สิวอักเสบขนาดใหญ่ (Nodules)
สิวอักเสบชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นตุ่มแดงขนาดใหญ่ใต้ผิวหนัง เกิดจากการกด หรือบีบสิวตุ่ม(Papules) ทำให้แบคทีเรียและน้ำมันแตกกระจายอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้สิวยิ่งอักเสบบวมแดง
สิวซีสต์ (Cysts)
สิวหัวช้างหรือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า สิวซีสต์เป็นสิวอักเสบที่รุนแรงมากมี่สุด จะมีตุ่มแดงขนาดใหญ่ ทั่วใบหน้า มีลักษณะสิวอักเสบหัวแข็งเป็นไต เกิดจากการอักเสบของต่อมไขมันที่อยู่ลึกลงไปใต้ชั้นผิวหนัง จนกลายเป็นหนองจับตัวเป็นถุงซีสต์ขนาดใหญ่เกาะในชั้นผิว เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเจ็บมาก เป็นสิวอักเสบไม่มีหัว หากบีบออกอาจทำให้เกิดรอยแผลขนาดใหญ่ได้
วิธีรักษาและป้องกันการเกิดสิวอักเสบ
ล้างหน้าให้สะอาดหมดจด
สำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับการดูแลผิวหน้า เพื่อผิวหน้าที่เรียบเนียนปราศจากปัญหาสิวอักเสบนั้น เคล็ดลับที่เป็นพื้นฐานง่าย ๆ คือ การล้างหน้าให้สะอาด แต่เท่านั้นยังไม่เพียงพอ เพราะในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ถูกคิดค้นออกแบบมาเพื่อดูแลทำความสะอาดผิวหน้าที่เราต่างรู้จักกันดีนั้นคือโทนเนอร์ ซึ่งมีคุณสมบัติลดโอกาสเกิดสิวอักเสบได้ ในวันนี้เรามีโทนเนอร์มาแนะนำซึ่งจะช่วยในเรื่องของการปรับสมดุลน้ำมันในผิว อย่าง Sebium Gel Moussant, Sebium Lotion ของ Bioderma จะทำให้ครีมบำรุงซึมซาบสู่ผิวง่ายขึ้น และลึกขึ้น
ใช้โทนเนอร์ปรับสมดุลน้ำมันในผิว
เราสามารถป้องกันและรักษาสิวอักเสบได้โดยการใช้โทนเนอร์ปรับสมดุลน้ำมันในผิว ซึ่งจะช่วยปรับรูขุมขนและรักษาสมดุลของ pH ในผิว โทนเนอร์จะช่วยขจัดน้ำมัน เครื่องสำอางและสิ่งสกปรกออกไปเพื่อไม่ให้รูขุมขนอุดตันลึก เป็นต้นตอของการเกิดปัญหาสิวอักเสบ
หากคุณกำลังมองหาวิธีป้องกันสิวอักเสบ เราขอแนะนำให้ใช้โทนเนอร์ของ Sebium Gel Moussant, Sebium Lotion เพื่อลดสิวอักเสบ ด้วยการล้างหน้าให้สะอาดหมดจดและโช้โทนเนอร์ปรับสมดุลน้ำมันในผิวควบคู่กันด้วย
การฉีดสิว
วิธีรักษาสิวอักเสบที่ได้รับความนิยมอีกวิธีหนึ่งคือการฉีดยาสิวอักเสบ เป็นวิธีที่ใช้ในการลดอาการบวมและการอักเสบของสิวด้วยการฉีดยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ จะทำให้สิวอักเสบยุบไว และมีความเสี่ยงที่จะเกิดแผลเป็นต่ำ การฉีดสิวจะเหมาะกับผู้ที่เป็นสิวอักเสบ เพราะมีลักษณะเป็นถุงหรือหนองใต้ผิวหนัง ใช้เวลานานกว่าจะหาย เมื่อสิวยุบแล้วเราจะต้องใช้วิธีการกดสิวอักเสบร่วมด้วย เพราะการฉีดยาสิวอักเสบแค่ทำให้บริเวณผิวหนังที่อักเสบยุบตัวลงแต่หัวสิวยังอยู่ หากเราปล่อยสิวอักเสบไว้นานๆ หนองจะกินผิวหนังบริเวณนั้นและทำให้กลายเป็นหลุมสิวได้
ห้ามบีบสิวอักเสบโดยเด็ดขาด
เมื่อใดก็ตามที่สิวอักเสบเกิดขึ้นบริเวณใบหน้าไม่ว่าจะเป็น สิวอักเสบที่แก้ม หรือสิวอักเสบที่คาง สิ่งที่ไม่ควรทำมากที่สุดคือการเอาเป็นเอาตายกับมันด้วยการบีบเค้นอย่างรุนแรง เพราะอาจทำให้สิวอักเสบแตกเป็นหนองภายใต้รูขุมขนและจะทำให้เกิดรอยแผลได้
สรุป
สิวอักเสบถึงแม้จะมีหลายชนิดแต่สาเหตุการเกิดก็มาจากจุดเดียวกัน เราสามารถรักษาและป้องกันสิวอักเสบได้โดยใช้โทนเนอร์ ซึ่งจะช่วยขจัดน้ำมัน และคราบสิ่งสกปรกออกไป ทำให้ลดโอกาสการเกิดสิวอักเสบได้ และเป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยมากที่สุด
เราจึงขอแนะนำให้ใช้วิธีนี้มากกว่าที่จะใช้วิธีการฉีดยาสิวอักเสบหรือการกดสิว เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุอีกทั้งยังมีผลข้างเคียงจากตัวยาที่ใช้ฉีดสิวมากกว่าการเลือกใช้โทนเนอร์อีกด้วย และเป็นวิธีที่ไม่สามารถรักษาให้หายถาวรได้
นอกจากการเลือกที่จะใช้วิธีใช้โทนเนอร์แล้ว เรายังต้องเลือกโทนเนอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของเราอีกด้วย วันนี้เราจึงแนะนำให้คุณเลือกใช้ Sebium Gel Moussant, Sebium Lotion ของ Bioderma ซึ่งการันตีว่าเหมาะกับทุกสภาพผิว อีกทั้งยังมีความอ่อนโยนต่อผิวและยังช่วยปรับสมดุลของค่า pH ในผิวให้คุณอีกด้วย